Pajero sport 2.5GT เราอยากให้คุณได้ลอง

วันนี้ทางผมมีโอกาสได้ไปซื้อรถยนต์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และรถรุ่นนี้เป็นรถในฝันของผมอีกรุ่น เมื่อมีโอกาสได้ใช้งานจริงระยะทางไกลๆแบบนี้ก็ต้องใช้โอกาสนี้รีวิวรถรุ่นนี้กันซะหน่อย สำหรับครั้งนี้รถที่ได้ซื้อมาคือ Pajero sport 2.4 GT 2WD โฉมปี 2016 ครับ

รุ่นนี้นับเป็นโฉมที่ 3 ของรถ SUV/PPV ของทางค่าย Mitsubishi ที่ถึงแม้จะเปิดตัวช้ากว่าคู่แข่งแต่ก็ยังสร้างความฮือฮาในตลาดรถประเภทนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบที่เน้นเส้นสาย ความคมชัดของด้านหน้า และด้านหลัง กระจังหน้าที่มีเส้นสายยาวไปถึงโคมไฟหน้าที่ออกแบบรับกระจังหน้าได้อย่างเหมาะเจาะ ขนาดตัวถัง ยาว 4,785 mm. กว้าง 1,815 mm. สูง 1,840 mm. ยาวขึ้น 90 mm. เตี้ยลง 40 mm. จากรุ่นเดิม

ยังไม่จบที่ความสวยงามเท่านั้น รถรุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยในการขับขี่ให้ผู้ขับขี่ได้พบกับความปลอดภัยตลอดการเดินทาง เริ่มจากกระจังหน้าที่เป็นที่ซ่อน RADAR ที่ใช้ตรวจจับรถหรือสิ่งกีดขวางด้านหน้า ไฟหน้า PROJECTER แบบ BI-LED และไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน SPECTRUM LED เมื่อเรากดปลดล๊อคที่ประตู หรือ รีโมท ไฟหน้าจะติดขึ้นมาให้สังเกตได้ง่ายว่าจอดตรงไหน พร้อมกระจกมองข้างจะกางออกโดยอัตโนมัติ

เมื่อเปิดประตูมาจะพบเบาะหนังดำหนานุ่ม พร้อมคอนโซลสีดำ ตัดโครเมียมสีเงิน เรียบหรู ดูดี เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า นั่งสบาย เสา A และเสา B มีที่จับเอาไว้สำหรับปีนขึ้นรถ ที่นั่งแถวสองกว้าง พร้อมช่องแอร์บนหลังคาทุกที่นั่ง เบาะแถวที่สามไม่เล็กจนเกินไป ซึ่งตัวผมก็ยังไม่ได้ลองนั่งเลย ( ขับล้วนๆ )

ในเบาะแถวที่สาม ก็ยังมีที่วางแก้ว พร้อมช่องเสียบชาร์ตไฟมาให้ ความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารของรถคันนี้ก็เพียบพร้อมด้วยจอเพดาน พร้อมชุดหูฟังอินฟาเรด ที่แยกกันระหว่างจอด้านหน้า กับจอบนเพดานทำให้ไม่รบกวนผู้ขับขี่

ที่นี้มาดูความสะดวกสบายของผู้ขับขี่กันบ้าง เริ่มจากพวงมาลัย มัลติฟังค์ชั่น พร้อมแป้นเพดเดิลชิพ เครื่องเสียงพร้อมบลูทูธ แอร์อัตโนมัติแยกซ้าย ขวา พวงมาลัยปรับขึ้นลง 4 ทิศทาง ช่วยในการปรับท่านั่งเวลาขับขี่ระยะทางไกลให้ไม่เมื่อยได้ดีทีเดียว บนพวงมาลัยจะมีสวิทซ์ควบคุมเครื่องเสียง กดรับ+วางโทรศัพท์ สวิทซ์ควบคุมครูซคอนโทรล และสวิทซ์กดเพื่อดูข้อมูลการขับขี่ ข้อมูลรถยนต์ ระยะทางที่เหลือ เพียบ! นอกจากนั้นแล้วสวิทซ์ไฟหน้าที่ก้านก็เป็นแบบอัตโนมัติ ที่จะเปิดไฟเองเมื่อเข้าสู่ที่มืด ด้านใบปัดน้ำฝนก็เช่นกันที่สามารถทำงานเองเมื่อสามารถตรวจจับหยดน้ำบนกระจกได้

เนวิเกเตอร์ทำงานได้ดีไม่มีสัญญาณขาดหาย ช่องเสียบชาร์ต พร้อม USB ซ่อนอยู่ในกล่องที่วางแขน

เมื่อสตาร์ทรถพร้อมจะเดินทางนั้น ก่อนจะเดินทางปลดเบรกมือซะก่อน แต่! มันอยู่ไหนหว่า? สำหรับรุ่นนี้เบรกมือกลายเป็นแบบไฟฟ้าไปแล้วครับ เพียงแค่คุณเหยียบเบรกไว้และกดสวิทซ์เบรกมือลงเท่านั้นไม่ต้องออกแรงใดๆเลย การเข้าเกียร์สำหรับผมแล้ว ระยะช่องว่างระหว่างเกียร์ P R N และ D ช่างห่างกันจนไม่คุ้นเอาซะเลย

โอเค! ตอนนี้เรามาพูดถึงการขับขี่กันบ้างดีกว่า เมื่อกดปุ่มสตาร์ทแล้ว จะได้รับความรู้สึกของเครื่องยนต์ที่ทำงานอยู่ได้เพียงน้อยนิด ทั้งการสั่นสะเทือนและเสียงของเครื่องยนต์ ช่างพากันเงียบและเบากว่ารุ่นเดิมลงไปพอสมควร ทางด้านขวามือของผู้ขับขี่จะมีปุ่มกดอีก สามตัว
1. สวิทซ์เปิด-ปิด ระบบควบคุมการทรงตัว
2. สวิทซ์ เปิด-ปิด เซ็นเซอร์กะระยะถอย
3. สวิทซ์ปรับตั้งระยะ การป้องกันการชนด้านหน้า

สำหรับครูซคอนโทรลของรุ่นขับสองนี้จะยังไม่มี ADAPTIVE CRUISE CONTROL ที่จะควบคุมความเร็วให้เท่ากับคันหน้าโดยอัตโนมัติ ดังนั้นเมื่อคุณเข้าใกล้คันหน้าจนเกินไป ระบบช่วยป้องกันการชนด้านหน้า ( FCM )จะส่งเสียงร้องเตือน พร้อมตัดกำลังเครื่องยนต์และเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพในการเบรกดียิ่งขึ้น สำหรับผมได้ลองมาแล้วเมื่อมีมอเตอร์ไซค์เสี่ยงตายขับตัดหน้าจากซ้ายมาขวาเพื่อจะยูเทิร์นที่ความเร็วเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยใช้ครูซคอนโทรล ช่วงเวลาเกือบๆสองทุ่ม มืดสนิท! แล้วสัญญาณเตือนก็ดังขึ้น โอววว fu_k! กำลังเครื่องตัดลงทันที พร้อมกับการหักพวงมาลัยไปทางซ้าย พร้อมหักกลับมาทางขวาอีกที การทรงตัวของรถก็ทำได้ดี ไม่มีอาการยวบยาบให้หวาดเสียว เสียงเตือนนี้แหละที่ทำให้ผมได้ตระหนักถึงอันตรายทางด้านหน้า และการที่เครื่องยนต์ตัดกำลังอัตโนมัติทำให้ความเร็วลดลงมาก่อนเราจะถอนคันเร่งเสียอีก

สรุป หลังจากที่เราเดินทางมาด้วยกัน จากสุราษฎร์ธานี ไปคลองท่อม กระบี่ กลับมากรุงเทพ ระยะทาง 1,007.6 กิโลเมตร รวดเดียว แวะพักกินข้าวบ้างซื้อของฝากบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง ผมรู้สึกประทับใจ Pajero sport คันนี้มากมาย ทั้งพละกำลัง การควบคุมและขับขี่ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่อัดแน่น ทำให้เรารู้สึกไม่เมื่อยล้าหรือ อ่อนเพลียมากนัก อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 13 กิโลเมตร/ลิตร คุ้มครับสำหรับ SUV/PPV ที่ไม่หวงออพชั่น ในราคาที่สุดคุ้ม เราขอให้คุณได้ลอง

ตรีพันธ์

http://www.154car.com